สเปค DJI Osmo Action
- เซ็นเซอร์ Sony IMX377 CMOS 1/2.3″ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- หน่วยประมวลผลภาพ Ambarella H2
- มุมมองกว้าง 145 องศา f/2.8
- ชัตเตอร์สปีด 1/8000 – 120s
- หน้าจอ Touch Screen ด้านหลัง 2.25 นิ้ว (ความละเอียด 640 x 360 พิกเซล)
- หน้าจอด้านหน้า 1.4 นิ้ว
- โหมดการถ่ายวิดีโอ: 4K60fps, 1080p 240fps, HDR และ Auto Time-Lapse
- มีระบบกันสั่น RockSteady
- กันน้ำลึกได้ที่ 11 เมตร
Gopro7 เป็นอีกหนึ่งกล้องที่ถ่ายวีดีโอที่นุ่มนวลเมื่ออยู่บน downhill mountain bikers หรืออยู่บนหมวกตอนบิน paraglider แต่ตอนนี้ Gopro กำลังเจอนักล่าที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เด็ด ราคาไม่แรงที่ทาง DJI ตั้งใจออกมาโค่นบัลลังก์ เชื่อว่าตอนที่บริษัทจีนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาอำนาจด้าน drones ที่มี Mavic Pro 2 ยึดหัวหาดไว้เหนียวแน่นอย่าง DJI จะกล้าโดดมาเล่นประกาศตัวเป็นคู่แข่งกับกล้อง GoPro Hero 7 Black ที่หลายคนต่างชื่นชมกัน และเมื่อเปิดตัว DJI Osmo Action หลายสื่อต่างประเทศเชื่อว่านี้คือ GoPro killer ขนานแท้
DJI Osmo Action ไม่มีความเหมือนกับ DJI Osmo Pocket โดยเฉพาะส่วนของ mechanical stabilization แต่หันมาใช้ RockSteady กันสั่นที่กันสั่นแนวซอฟแวร์คล้ายกับ HyperSmooth ของ Gopro
โดยสื่อใหญ่ย่านไอที trustedreviews รวบรวมฟีเจอร์เด็ดๆ ของ DJI Osmo Action ที่ตอนนี้มีฉายาสุดเท่ห์ว่า GoPro killer
1.ราคา ที่ถูกกว่า
หลายคนที่ตามข่าว Osmo Action น่าจะทราบแล้วราคาเปิดตัวอยู่ที่ 12,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าของ Gopro7 ที่ติดราคาอยู่ที่ 14,500 บาท ถูกกว่าอยู่ 2,500 บาท ส่วนต่างที่เกิดขึ้นพอจะนำไปต่อยอดอุปกรณ์เสริมที่ทาง DJI เตรียมมานำเสนอไม่ว่าจะเป็น Neutral Density (ND) filter หรืออื่นๆ เรียกว่าพอจะประหยัดเงินในกระเป๋าไปมากพอสมควร
2.การออกแบบ
การออกแบบโดยรวมมีความคล้ายกับ GoPro Hero 7 Black เรื่องการลงน้ำลึกก็ไม่น้อยหน้า Osmo Action สามารถลงน้ำได้ลึก 11 เมตรโดยไม่จำเป็นต้องใส่ case
เรื่องขนาดและความสูงนั้นคล้ายกับ GoPro Hero 7 Black ด้านน้ำหนักอยู่ที่ 124 กรัม หนักกว่า 8 กรัมและดูเนื้อผิวแข็งแกร่ง ที่ตัวเลนส์มี screw ที่ฝาเลนส์เพื่อใช้ใส่ ND filter และสิ่งที่แตกต่างมากที่สุดระหว่างทั้งกล้องนี้คือ Osmo Action มีหน้าจอขนาด 1.4 นิ้ว เป็นจอสี LCD ไว้ด้านหน้า สวนทางกับ Gopro ที่ด้านหน้ามีจอขาวดำที่เอาไว้แสดงโหมดการใช้งานของกล้อง แต่การมีจอสีของ Osmo เป็นไม้ตายชิ้นหนึ่งที่ช่วยให้ vlog ง่ายมากขึ้น
ถ้าอยากใช้ external microphone กล้องรุ่นใหม่มี USB-C adaptor ไว้เชื่อมต่อรวมถึงยังมีปุ่ม QuickSet ที่เป็นตัวช่วยให้เข้าไปตั้งค่าถ่ายภาพโดยไม่ต้องไปวุ่นวายกับการกดหน้าจอ
3.โหมดถ่ายภาพของ DJI Osmo Action
เซนเซอร์ขนาด 1/2.3-inch CMOS เป็นขนาดเซนเซอร์ที่ทาง DJI ใช้ใน DJI Mavic Air ด้านวีดีโอกล้องค่าย DJI ยังมีโหมดวีดีโอ 4K 60fps โหมดสำคัญที่ทำให้ Osmo Action เป็นคู่แข่งสำคัญของ Gopro อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่เป็นฟีเจอร์เด็ดอยู่พอสมควรคือ VDO HDR เข้าแก้ปัญหาสถานการณ์ที่มีความต่างของแสงมากให้คมชัดมากขึ้นทั้งยังมี RockSteady ระบบกันสั่นที่มีความสามารถเท่ากับ HyperSmooth
4.แบตเตอรี่
ไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่ Osmo Action ใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุ 1300mAh battery ทางผู้ผลิตยืนยันว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานได้ 91 นาทีเมื่อถ่าย 4K/30fps video เทียบกับ Gopro ที่ยืนระยะได้ประมาณ 85-90 นาที แต่ถ้าเทียบกันตอนถ่ายวีดีโอ 1080p/30fps ตัว Gopro จะทำงานได้ 105 นาที ซึ่งมากกว่า 10 นาที ใครที่อยากจะใช้นานควรจะพกแบตเตอรี่ 2 ก้อนหรือจะชาร์จไฟผ่าน USB-C port ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
5.อุปกรณ์เสริม
กล้อง Gopro มีอุปกรณ์เสริมจากหลายบริษัทมากมายให้เลือกซื้อในตลาด ซึ่งในจำนวนนั้นสามารถใช้งานกับ Osmo Action ได้ด้วย ทางผู้ผลิตมี universal mount 2 แบบ มาให้ ขณะเดียวกัน DJI ก็มีอุปกรณ์เสริมแท้จากค่ายมาให้เลือกใช้ด้วย เรียกว่าเตรียมตัวพร้อมรบ การการบ้านมาดีมากทีเดียว
แม้ 5 ข้อข้างต้นยังเป็นเรื่องของข้อมมูลรายละเอียดแต่ยังต้องรอชมเมื่อนำไปใช้จริงว่าจะเป็น GoPro killer จริงหรือไม่
mangkapounza –
งานดี วัสดุดี ชอบตรงมีจอด้านหน้า เหมาะมากไว้เชลฟี่