Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
Gimbal Stabilizer - กิมบอล ไม้กันสั่น
ไม้กันสั่น คืออะไร
ไม้กันสั่น (กิมบอล) หรือบางที่อาจเรียกว่า กริมบอล คืออุปกรณ์เสริมตัวหนึ่งสำหรับการใข้งานกล้องถ่ายรูป ในงานบันทึกวิดีโอ ได้ทั้งกล้อง DSLR, กล้อง Action Camera หรือแม้แต่กล้องบนสมาร์ทโฟน
โดยจะช่วยกันสั่นให้การถ่ายวิดีโอ เมื่อร่างกายของผู้บันทึกภาพเกิดการเคลื่อนไหว เช่น การวิ่ง การเดิน
โดยวิดีโอที่ถ่ายออกมาด้วยการใช้ ไม้กันสั่น (กิมบอล) จะช่วยให้งานมีความนิ่ง แพนกล้องได้อย่างสมูท แม้ตัวกล้องจะมีน้ำหนักมากแค่ไหน ทำให้ภาพที่ได้มีความสวยงาม ไม่เสียอรรถรสในการรับชม ง่ายต่อการนำไปตัดต่อในกระบวนการต่อไป
ไม้กันสั่น (กิมบอล) นั้นจะสามารถแบ่งประเภทของการใช้งาน ตามลักษณะได้ 2 แบบคือ Handheld ที่เป็น ไม้กันสั่น ที่ต้องอาศัยการถือถ่ายโดยเฉพาะ เหมาะกับตากล้องที่เน้นถ่ายวีดีโอในงานสำคัญต่าง ๆ หรือครีเอเตอร์ในการถ่าย Vlog และอีกแบบคือ Wearable หรือแบบสวมใส่ตามร่างกาย เช่น แบบติดกับหน้าอก ติดกับหมวกกันน็อค กิมบอลแบบนี้จะเหมาะสำหรับตากล้องที่ต้องการบันทึกภาพกิจกรรม Adventure หรืออยากให้ได้มุมมองที่ใกล้เคียงมุมมองสายตามนุษย์ที่สุด
ข้อแตกต่างระหว่าง 2 Axis และ 3 Axis Camera Stabilizer
จริง ๆ แล้วไม้กันสั่น (กิมบอล) จะมีระบบการทำงานอยู่ 2 แบบคือ 2 Axis และ 3 Axis Camera Stabilizer
หรือ กิมบอล 2 แกน และ กิมบอล 3 แกน ซึ่งเป็นมอเตอร์ Camera Stabilizer ที่คอยควบคุมการกันสั่นในการบันทึกภาพ ควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของไม้กันสั่น (กิมบอล) ตัวนั้นว่าจะเคลื่อนที่ไปทางไหนได้บ้าง
โดยไม้กันสั่น (กิมบอล) แบบ 3 แกนก็จะมีมอเตอร์ 3 ตัวในการควบคุม ที่จะทำให้แกนที่ติดกับกล้องถ่ายรูปเคลื่อนไหวได้ 3 ทิศทางตามแกน X,Y,Z หรือมุม Pitch, มุม Pan และมุม Roll ช่วยทำให้ตัวกล้องตั้งตรงคงที่อยู่ในทิศทางเดียวกับเส้นขอบฟ้า ส่วนกิมบอลแบบ 2 แกน ก็จะเหลือมอเตอร์ 2 ตัว ทำให้เคลื่อนไหวได้ 2 ทิศทาง
หลักการเลือกไม้กันสั่น
ในการเลือกซื้อ ไม้กันสั่น (กิมบอล) ที่ถูกต้องนั้น อันดับแรกคุณจะต้องพิจารณาก่อนว่าจะซื้อ ไม้กันสั่น (กิมบอล) ไปใช้งานกับอุปกรณ์อะไร กล้อง DSLR, กล้อง Mirrorless, กล้อง Action Camera จำพวก GoPro หรือกับการบันทึกภาพผ่านสมาร์ทโฟน
เพราะไม้กันสั่น (กิมบอล) ของแต่ละอุปกรณ์ก็จะมีทั้งขนาด ฟังก์ชันการใช้งาน มอเตอร์ น้ำหนัก และราคาที่แตกต่างกันออกไป จากนั้นเมื่อคุณพิจารณาได้แล้วว่าจะซื้อ ไม้กันสั่น (กิมบอล) ไปใช้กับอุปกรณ์อะไร ค่อยมาดูที่เรื่องสเปคและฟังก์ชันการใช้งาน โดยไม้กันสั่น (กิมบอล) แบบ 2 แกนจะมีราคาที่ถูกกว่าไม้กันสั่น (กิมบอล) แบบ 3 แกน เพราะว่าถ่ายได้หลายทางกว่า และ กันสั่น ได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
แบรนด์ไม้กันสั่นที่ยี่ห้อไหนดี
แบรนด์ไม้กันสั่น (กิมบอล) ที่วางขายในร้านขายอุปกรณ์กล้องถ่ายรูปปัจจุบันนั้นมีหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมี ประเภทของไม้กันสั่น (กิมบอล) ที่แตกต่างกันออกไปรวมถึง ขนาด น้ำหนัก การรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ และ ราคาที่ต่างกันด้วย
โดยแบรดน์ไม้กันสั่น (กิมบอล) ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำในวงการ มีหลายรุ่นให้เลือก ผลิตจากวัสดุเกรด Premium ที่มีความทนทาน สวยงามและมีหลายช่วงราคาตอบโจทย์งบประมาณของตากล้องทุกกลุ่ม ได้แก่แบรนด์ Zhiyun, Feiyu Tech, Benro, Moza,DJI