Nikon D300s ใหม่กับฟังก์ชั่น HD Video และประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

               เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่นิคอน D300 ได้เปิดตัวสู่ตลาดกล้องมืออาชีพ และพลิกผันให้นิคอนกลับมาเป็นผู้นำในผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพอย่างแท้จริงอีกครับ ซึ่งในตอนนี้การเปิดตัวของ D300 ถือเป็นก้าวสำคัญของนิคอนที่ได้มีกล้องระดับเรือธงตัวใหม่ ที่มาเสริมกล้องระดับโปรที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้อย่าง D3 ซึ่งโดยฟังก์ชั่นการทำงาน และ คุณภาพของภาพแล้วไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย 
 nikon_d300s_001.jpg
       แล้วสองปีที่ผ่านมาก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า D300 เป็นกล้องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่งของนิคอนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมปี 2009 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทุกคนรอคอยการเปิดตัวกล้องที่เป็นข่าวลือหนาหูมากที่สุด (ในชื่อ D400) นิคอนก็ได้ทำการปรับปรุง D300 เสียใหม่ และใส่รหัสต่อท้ายตามสไตล์ของนิคอนในชื่อ D300s  โดยฟังก์ชั่นพื้นฐานของ D300s นี้มีโครงสร้าง และฟังก์ชั่นทั้งหมดที่ยังคงเป็นของ D300 เดิม แต่ได้เพิ่มฟังก์ชั่นการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีโอในระดับ 720p HD video เข้ามาพร้อมระบบเสียงแบบสเตอริโอ ซึ่งจะถือว่าเป็นจุดเด่นหลักในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ว่าได้ แต่ไม่เพียงเท่านี้ นิคอนยังได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านการถ่ายภาพมาให้ช่างภาพทั่วไปอีกด้วย อาทิเช่น ช่องเสียบเมมโมรี่การ์ดแบบ Dual Slot ที่ต่อไปนี้ ชาวนิคอนจะได้ใช้งานการ์ด CF และ SD ไปในเวลาเดียวกันแล้ว อีก ทั้งยังจัดการกับการจัดเก็บภาพได้หลากหลายรูปแบบไม่แพ้กล้อง D3X  และ D3 อีกด้วย รวมถึงความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นเป็น 7 เฟรม/วินาที ติดต่อกันสูงสุดมากถึง 44 ภาพในแบบ JPEG/Fine เลยทีเดียว ส่วนการวางปุ่มกดและฟังก์ชั่นอื่นๆ เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าติดตาม หากคุณเป็นผู้ที่ใช้งาน D300 อยู่แล้วอาจต้อง ลังเลว่าจะเพิ่ม D300s เข้ามาประจำการเพิ่มดีหรือเปล่า
 nikon_d300s_002.jpg nikon_d300s_005.jpg 
 nikon_d300s_004.jpg  nikon_d300s_003.jpg

ฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาใน D300s :
– ฟังก์ชั่นถ่ายวิดีโอระดับ 720p HD Video
– ระบบเสียงสเตริโอ พร้อมช่องเสียบไมโครโฟนภายนอก
– ช่องเสียบเมมโมรี่การ์ดแบบ SD และ CF พร้อมกันสองช่อง
– ฟังก์ชั่นถ่ายภาพต่อเนื่อง 7 เฟรม/วินาที ติดต่อกัน 17 ภาพแบบ RAW, 44 ภาพแบบ JPEG/Fine และ 100 ภาพแบบ JPEG/Normal
– ความไวแสง ISO 200-3200 (บูสท์เป็น 100 และ 6400) ได้เท่าเดิม แต่มี Noise น้อยลงกว่าหนึ่งเท่าตัว
– เพิ่มปุ่มเข้าสู่ฟังก์ชั่น Live View แยกออกมาต่างหากภายนอก
– ปรับปรุงปุ่ม Multi controller ใหม่ พร้อมปุ่ม OK สำหรับการทำงานที่ หลากหลายเช่นเดียวกับ D3X
– การแสดงผลฟังก์ชั่นการถ่ายภาพรูปแบบใหม่ แบบ interactive
– ฟังก์ชั่น Active D-Lighting เพ่ิมโหมด Auto และ Extra High
– Quiet drive mode เพิ่มโหมดชัตเตอร์แบบเสียงเงียบในระบบเลื่อนภาพ
– การแสดงผลระดับน้ำของตัวกล้องแบบ Virtual horizon แบบเดียวกับ D3
Capture and Edit HD Movie in stereo :
     นิคอน D300s เป็นกล้อง DSLR รุ่นที่ 3 ต่อจาก D90  และ D5000  ที่มี ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีโอในตัวกล้อง ซึ่งในด้านความละเอียดภาพอาจไม่โดดเด่นถึงระดับ Full HD แต่ขนาดภาพ 720p HD Video ก็ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการในการใช้งานทั่วไปแล้ว โดยขนาดภาพจะอยู่ที่ 1280×720 พิกเซล ที่ความเร็ว 24 เฟรม/วินาที ติดต่อกันได้นานจนกว่าการ์ดจะเต็มเลยทีเดียว ซึ่ง นิคอนได้เพิ่มช่องไมโครโฟนในตัวให้กับ D300s เอาใต้โลโก้ด้านหน้านั่นเอง แต่ถ้าหากคุณตั้งใจจะถ่าย วิดีโออย่างจริงๆ จังๆ นิคอนก็มีช่องเสียบไมโครโฟนภายนอกแบบ MIC mini jack เอาไว้ที่ด้านข้างให้ด้วย เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีกว่า ใสเคลียร์ และเก็บเสียงได้กว้างไกลกว่า
     นอกจากนี้ยังสามารถใช้ ระบบออโต้โฟกัสในขณะถ่ายวิดีโออยู่ได้อีกด้วย โดยในการหาโฟกัสจะใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ Contrast-detect AF ในแบบ Tripod mode นั่นเอง เมื่อกดปุ่ม OK เพื่อบันทึกวิดีโอไปแล้วให้ใช้งานปุ่ม AF-ON ในการหาโฟกัสแบบอัตโนมัติได้ทันที (จะมีเสียงในการหาโฟกัสให้ได้ยินขณะบันทึกภาพ, ความเงียบ และความเร็วในการหาโฟกัส ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเลนส์ที่ใช้)
     หลังจากถ่ายวิดีโอไปแล้ว คุณสามารถทำการตัดต่อเพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของคลิปได้เองผ่านเมนู Edit movie (กดปุ่ม OK ขณะเปิดคลิปที่ต้องการตัดต่อ) สำหรับการตัดสิ่งที่ไม่ ต้องการออกไปได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และแสดงผลได้ทันทีบนจอโทรทัศน์ความละเอียดสูงแบบ HDTV ผ่านช่อง HDMI
Faster shooting & Outstanding quality :
     ด้านการถ่ายภาพต่อเนื่อง D300s เพิ่มความเร็ว ในการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบความเร็วสูงในโหมด CH ให้ สูงขึ้นเป็น 7 เฟรม/วินาที โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม (แบตเตอรี่แพ็ค MB-D10) ในขณะที่ D300 เดิมจะทำ ได้เพียง 6 เฟรม/วินาทีเท่านั้น ส่วนการใช้งานกับแบตเตอรี่แพ็ค MB-D10  นั้น จะเพิ่มความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องเป็น 8 เฟรม/วินาทีเท่าเดิม ส่วนความจุของบัฟเฟอร์ยังคงเท่าเดิมคือ 17 ภาพแบบ RAW, 44 ภาพแบบ JPEG/Fine และ 100 ภาพแบบ JEPG/Normal ซึ่งถ้าหากคุณเป็นนักถ่ายภาพธรรมชาติ ที่ไม่ต้องการใช้งาน แบตเตอรี่กริปที่มีขนาดใหญ่ และไปเพิ่มน้ำหนักของตัวกล้องแล้ว D300s จะช่วยให้คุณถ่ายภาพต่อเนื่องได้ดีขึ้น ในขณะที่น้ำหนักของตัวกล้องยังเท่าเดิมนั่นเอง
     ในด้านของประสิทธิภาพการทำงาน D300s ใน เทคโนโลยี Scene Recognition ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม ด้วยโมดูล 1005pixel RGB sensor เพื่อใช้ในการหาโฟกัสของภาพทั้ง 51 จุด ด้วย Multi-CAM3500DX จึงทำให้การวิเคราะห์รูปแบบของวัตถุในภาพ มีความ แม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีความถูกต้องแม่นยำในค่าแสงที่บันทึก ไวท์บาลานซ์ สีสันของภาพ ความสมบูรณ์ ต่อเนื่องในการไล่โทนของสีผิวมนุษย์ และแน่นอนว่าเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดสัญญาณรบกวนหรือ Noise ให้ น้อยลงกว่า D300 เดิมถึงหนึ่งเท่าตัว โดยหวังผลการใช้งานดีเยี่ยมได้ถึง ISO 1600 เลยทีเดียว 

nikon_d300s_sample_1.jpg  nikon_d300s_sample_2.jpg 

{youtube}qd8Ex5-Yedc{/youtube}

ขอบคุณ : phototech-mag.com