มือใหม่ที่คิดจะขายภาพออนไลน์ มาทำความรู้จักก่อนนะครับ…

การถ่ายภาพ เป็นงานอดิเรกที่เปลืองเงินมาก!!! ในการที่เราจะได้ภาพที่ถูกใจเรา การได้ถ่ายรูปแต่ละครั้ง ฟังเสียงชัตเตอร์ของกล้อง ดูผลงานที่เราสร้างมาเองกับมือตัวเอง ความอยากได้ภาพที่สวยเหมือนช่างภาพมืออาชีพ ในระดับที่เอาไปอวดเค้าได้ นอกจากนี้การบันทึกความทรงจำด้วยภาพถ่าย เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจ ไม่สามารถตีเป็นตัวเงินได้ก็ตาม แต่ความสุขเหล่านี้ มาพร้อมกับ การลงทุน อาการเลนส์งอก สำหรับช่างภาพ เป็นสิ่งที่หลายท่านคงคุ้นชินเป็นอย่างดี  ด้วยเหตุผลนี้ หลายท่านต้องสร้างทางหารายได้จึงได้เกิดการรับจ้างถ่ายภาพ แต่บางครั้งการรับงานถ่ายภาพ มีความไม่แน่นอนสูง งานจะชุกเป็นซีซัน คู่แข่งก็เยอะ มีการตัดราคาแย่งงานกัน ในยุคปัจจุบันมีทางออก มีช่องทางการทำรายได้ แบบ passive income ผ่านสิ่งที่เรียกว่า microstock

                       

Microstock คืออะไร?? จุดเริ่มมาจากคำว่า Stock Photography ซึ่งเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1920-1930 โดยในอดีต จะมีการซื้อขายกันผ่านตัวแทน (Agent) ผู้ซื้อก็จะนำภาพไปใช้ในสื่อโฆษณาของตัวเอง เช่น นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เวลาผ่านไปวิวัฒนาการทำให้ การซื้อขายเข้าสู่โลก Online โดยเป็นแพลตฟอร์ม ที่เป็นสื่อกลางในการซื้อขายภาพถ่าย เหมาะสมหรับลูกค้าที่ต้องการภาพไปใช้ แต่ไม่สะดวกที่จะถ่ายภาพเอง อาจจะเนื่องจากอุปกรณ์ที่ไม่พร้อม สถานที่ การเดินทาง นายแบบ นางแบบ ซึ่งจะมีความยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายตามมามากมาย

นอกจากนี้เรื่องลิขสิทธิ์ภาพถ่าย เป็นสิ่งที่ช่างภาพ และผู้ผลิตสื่อโฆษณา ต้องมีความตระหนักและระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้จากตัวอย่างการฟ้องร้องเรียกค่าลิขสิทธิ์ภาพ สำหรับการนำรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องไปใช้ในสื่อโฆษณา ไมโครสต็อก (Microstock)” จึงเป็นทางออกที่ทุกคน Win-Win จึงเป็นช่องทางในการหารายได้อีกทางหนึ่งของช่างภาพในยุคปัจจุบัน

ราคาภาพที่ขายในไมโครสต็อกจะมีหลายระดับราคา ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการคือขนาดของภาพและวัตถุประสงค์ในการใช้งานของลูกค้า ราคาจะเริ่มตั้งแต่ไม่ถึง 1 เหรียญสหรัฐสำหรับภาพขนาดเล็กๆ ความละเอียดต่ำเช่น 72 DPI  และใช้ในวัตถุประสงค์ธรรมดาทั่วไป เช่นใช้ประกอบหรือตกแต่งเว็บไซต์  ทำโบรชัวร์อิเลคโทรนิค  ไปจนถึงระดับร้อยเหรียญสหรัฐ สำหรับภาพที่นำไปใช้ในวัตถุประสงค์พิเศษเช่นพิมพ์ขายเป็นโปสต์การ์ด หรือโปสเตอร์เป็นต้น

ส่วนแบ่งในการขายภาพหรือที่เรียกกันในวงการไมโครสต็อกก็คือค่าคอมมิชชั่น (Commission) จะมีตั้งแต่น้อยมาก ราวๆ .25 เหรียญสหรัฐ (ไม่ถึงสิบบาท) ไปจนถึงระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อการขายภาพ 1 ครั้ง

Microstockเจ้าแรกๆ ได้แก่ Istockphotoก่อตั้งในปี 2000 และตามมาด้วยGettyimageภายหลังจึงเว็บไซต์อื่นๆลักษณะคล้ายกัน เช่น  AlamyFotoliaDepositphotos123RFFeaturepicsPond5Can Stock PhotoDreamstimeและ Shutterstock

ความแตกต่างของ microstockแต่ละที่

iStockphoto ขายภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ คลิปวิดีโอ คลิปเสียง และสื่อประเภทสต็อกอื่นๆ อีกหลายรายการ ที่นี่จะต้องมีการสอบก่อน การสอบจะแยกสอบสำหรับสื่อแต่ละประเภทออกจากกัน เช่น ขายภาพถ่ายก็ต้องสอบภาพถ่าย ขายวิดีโอก็ต้องสอบวิดีโอ เป็นต้น การสอบก็อยู่ในระดับที่มีความยากพอสมควร ช่างภาพมือใหม่ๆ มักจะสอบไม่ค่อยผ่านมากนักshutterstockขายทั้งภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และคลิปวิดีโอ  สำหรับภาพถ่ายและภาพเว็คเตอร์ จะต้องส่งภาพไปสอบก่อนจำนวน 10 ภาพ ส่วนคลิปวิดีโอนั้น สามารถสมัครสมาชิกแล้วส่งคลิปไปขายได้เลยไม่ต้องสอบ

123rf ขายภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และคลิปวิดีโอในบรรดาไมโครสต็อกแถวหน้า 123rf น่าจะเป็นไมโครสต็อกที่รับภาพง่ายที่สุด ภาพของผู้เริ่มต้นถ่ายภาพในแนวสต็อก มีโอกาสที่จะผ่านการพิจารณาจากที่นี่มากกว่าที่อื่น

fotoliaขายภาพถ่าย ภาคเว็คเตอร์ และคลิปวิดีโอ สมัครสมาชิกแล้วส่งภาพได้ทันทีไม่ต้องสอบเป็นไมโครสต็อกที่มีความเข้มงวดในการตรวจพิจารณาภาพมากที่สุด

Dreamtimeเป็นไมโครสต็อกที่ไม่ต้องสอบ สามารถลงทะเบียนแล้วส่งภาพขายได้เลย การพิจารณาภาพจะมีความเข้มงวดในระดับปานกลางขายเฉพาะภาพถ่ายและภาพเว็คเตอร์ ไม่ขายคลิปวิดีโอ

Gettyimageขายภาพถ่าย เวคเตอร์ และคลิปวีดีโอ เป็นหนึ่งใน บริษัท แรกๆ ที่เริ่มต้นไมโครสต็อก การพิจารณาภาพจากGetty เข้มงวดกว่าที่อื่น ๆ

อุปกรณ์และสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการขายภาพถ่ายออนไลน์

  • กล้องถ่ายภาพ

กล้องที่ให้ขนาดของภาพไม่ต่ำกว่า 6 ล้านพิกเซล หรือ 6 เมกะพิกเซลกล้องที่ให้ภาพขนาดดังกล่าวได้ สามารถใช้ถ่ายภาพขายได้ทั้งสิ้น

  • ขาตั้งกล้องคุณภาพดี
  • เลนส์

ภาพที่ถ่ายจากกล้องและเลนส์คุณภาพสูง ย่อมมีโอกาสขายได้มากกว่าภาพจากเลนส์และกล้องธรรมดาทั่วไป

  • คอมพิวเตอร์ หรือ โน๊ตบุ๊ค (ระบบปฏิบัติการอะไรก็ได้) ที่ต่อ internet ได้ มีซอฟท์แวร์ตกแต่งรูปภาพ (ควรจะถูกลิขสิทธิ์ ทั้งหมด)
  • ที่อยู่ อีเมล
    ควรใช้อีเมลมาตรฐาน เช่นHotmail, Gmail หรือ Yahoo
  • เอกสารระบุตัวตน
    Passport ที่ยังไม่หมดอายุ ใบขับขี่สากล และบัตรประชาชนของไทยรุ่นใหม่ที่มีชื่อ/นามสกุลของเราเป็นภาษาอังกฤษ
  • บัญชีPaypal หรือ Moneybookers

ชนิดของไฟล์ภาพ
ชนิดของไฟล์ภาพที่เราใช้ส่งไปขายยังไมโครสต็อกนั้น ต้องเป็นไฟล์ชนิด JPG อย่างเดียวเท่านั้น